ยินดีต้อนรับทุกคน เข้าเยี่ยมชม เว็บไซต์ของ นายประชา หรือ www.zoomzaa.blogspot.com.......Wellcome everyone to Pracha's website www.zoomzaa.blogspot.com I will break free from this sphere and will not give into my fears as long as you are in my life together we will defeat strife Every bleak moment you replace with thoughtful words to embrace those years of trials and tribulations tied us with a strong connection Days of depression are no more for you heal each of my sore I will not crawl back into that hole cause you are here healing my soul Feelings of love flutter in my eyes where once it used to be ice you awake a dying woman in me and now I am the woman I can be I know I am stubborn and annoying yet your patience keeps our relation going you are my one true love to hold, I pray this bond never grows cold Based on a quote: Blessed is the influence of one true, loving human soul on another by George Eliot

Study English

ยินดีต้อนรับทุกคน เข้าเยี่ยมชม เว็บไซต์ของ นายประชา หรือ www.zoomzaa.blogspot.com.......Wellcome everyone to Pracha's website www.zoomzaa.blogspot.com

20090824

Adjective

การใช้ Adjective ขยายนามตามข้อยกเว้น


Adjective คือ คำที่ใช้บรรยายคุณภาพของนาม เพื่อให้รู้ว่านามนั้นมีลักษณะดีหรือชั่วสูงหรือต่ำ ดำหรือขาวเป็นต้น เรียกว่า Adjective หรือคุณศัพท์ได้แก่คำว่า
good = ดี
bad = ชั่ว
tall = สูง
short = ต่ำ
beautiful = สวย
clever = ฉลาด
fat = อ้วน
thin = ผอม
dirty = สกปรก
white = ขาว เป็นต้น


Adjective เวลานำไปพูดหรือเขียน มีวิธีใช้ 2 อย่าง คือ
1. เรียงไว้หน้านามที่คุณศัพท์นั้นไปขยายโดยตรงก็ได้ เช่น
The fat man can't run quickly.
คนอ้วนไม่สามารถวิ่งเร็วได้ (fat เรียงไว้หน้านาม man โดยตรง)
A clever boy can answer a difficult problem.
เด็กฉลาดสามารถตอบปัญหาที่ยากได้ (คุณศัพท์ทั้งสองเรียงไว้หน้านามโดยตรง)
2. เรียงไว้หลัง Verb to be ก็ได้ เช่น
Somsri is beautiful. Manu is tall.
สมศรีเป็นคนสวย มนูเป็นคนสูง
My gather is short. My dog is black.
บิดาของฉันเตี้ย สุนัขของฉันสีดำ เป็นต้น
ข้อยกเว้น การใช้ Adjective มาขยายตามแนวแบบข้อ 1 ก็ได้ หรือข้อ 2 ก็ได้ หมายถึงAdjective ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น แต่ถ้าเป็น Adjective ที่จะกล่าวต่อไปนี้แล้ว มีวิธีใช้ขยายนามได้เพียงข้อใดข้อหนึ่งเท่านั้น จะใช้แบบทั้ง 2 ข้อตามใจไม่ได้ นั่นคือ


1. Adjective ต่อไปนี้ เมื่อขยายนาม ให้ใช้แบบเรียงไว้หลังกริยาเท่านั้นห้ามใช้แบบเรียงไว้หน้านามโดยเด็ดขาด ได้แก่ :-sorry = เสียใจ
afraid = กลัว
well = อยู่ดีสบาย
alive = มีชีวิตอยู่
ashamed = ละอายใจ
worth = มีค่า
awake = ตื่นอยู่
ill = ไม่สบาย
alike = เหมือนกัน
asleep = หลับ
aware = ระวัง
alone = โดยลำพัง
content = พอใจ
unable = ไม่สามารถ เช่น :-
ถูก : This boy is sorry.
เด็กคนนี้เสียใจ
ผิด : This is a sorry boy.
นี่คือเด็กที่เสียใจ
ถูก : That girl is afraid.
เด็กหญิงคนนั้นกลัว
ผิด : That is an afraid girl.
นั่นคือเด็กหญิงที่กลัว
ถูก : I am well.
ผมอยู่ดีสบาย
ผิด : I am a well man.
ผมเป็นคนอยู่ดีสบาย
ถูก : Wilai is ill.
วิไลไม่สบาย
ผิด : Wilai is an ill girl.
วิไลเป็นเด็กหญิงไม่สบาย


2. Adjective ต่อไปนี้เมื่อใช้ขยายนาม ให้เรียงไว้หน้านามโดยตรง ห้ามใช้แบบเรียงตามหลังกริยา Verb to be ได้แก่ :-
formar = ก่อน
latter = หลัง
inner = ภายใน
outer = ภายนอก
upper = ข้างบน
elder = แก่กว่า
drunken = ขี้เมา
middle = กลาง
entire = ทั้งหมด
letter = ถัดมา
wooden = ทำด้วยไม้
golden = ทำด้วยทอง
neighboring = เพื่อนบ้าน
especial = เฉพาะ เป็นต้น
ถูก : Burma is a neighboring country.
ผิด : Burma is neighboring.
พม่าเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
ถูก : She met a drunken teacher.
หล่อนได้พบครูขี้เมาคนหนึ่ง
ผิด : The teacher was drunken.
ครูคนนั้นเป็นคนขี้เมา เป็นต้น


3. Adjective ที่ไปขยายหรือประกอบสรรพนามผสม (Compound Pronoun) ต่อไปนี้ ให้เรียงไว้ข้างหลังเสมอ ได้แก่ :-
someone everybody no one
something eveywhere nothing
somebody anyone nobody
somewhere anybody nowhere
everyone anything เช่น:-
I'll tell you something important. ฉันจะบอกคุณถึงบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ
(อย่าใช้ : I’ll tell you important something.)
There's nothing new for us to do. ไม่มีอะไรใหม่สำหรับเราที่จะทำ
(อย่าใช้ : There's new nothing for us to do.)


4. Adjective ที่ไปแสดงการวัด (ขนาดต่าง ๆ ของนาม) ต้องวางไว้หลังนามเสมอ
This river is two hundred miles long.
แม่น้ำสายนี้ยาว 200 ไมล์
(อย่าใช้ : This river is long two hundred miles.)
This mountain is five hundred feet high.
ภูเขานี้สูง 500 ฟุต
(อย่าใช้ : This mountain is high five hundred feet) เป็นต้น


5. Adjective ที่มีจำนวนตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แล้วมาขยายนามตัวเดียวกัน จะวางไว้หน้านามนั้นโดยตรงก็ได้ หรือจะวางไว้หลังนามนั้นก็ได้ แต่อย่าลืมว่าหน้าAdjective ตัวสุดท้ายนั้นต้องมี and มาเชื่อมไว้เสมอ เช่น :-
He is a witty and wise teacher.
หรือ He is a teacher, witty and wise.
เขาเป็นครูที่มีไหวพริบและฉลาด
Somsak bought a new, powerful, and expensive car.
หรือ somsak bought a car, new, powerfull, and expensive.
สมศักดิ์ได้ซื้อรถยนต์คันใหม่มีสมรรถภาพดีและราคาแพงมาหนึ่งคัน เป็นต้น


6. Adjective ที่เป็นสมญานาม ไปทำหน้าที่ขยายนามที่เป็นชื่อเฉพาะ ให้วางไว้หลังนามนั้นเสมอ (และ Adjective ที่นำมาใช้เป็นสมญานามนี้ต้องมี the นำหน้าทุกครั้ง เช่น :-
King Naresuan, the great.
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
Ivan, the Terrible.
อีแวนตัวดุร้าย
Kukrit, the wise of Siam.
คึกฤทธิ์, เจ้าปัญญาแห่งเมืองสยาม เป็นต้นชนิดของ Adjective

Adjective ในภาษาอังกฤษแบ่งเป็น 8 ชนิด คือ
1. Descriptive Adjective คุณศัพท์บอกลักษณะ
2. Proper Adjective คุณศัพท์บอกชื่อเฉพาะ
3. Quantitative Adjective คุณศัพท์บอกปริมาณ
4. Numberal Adjective คุณศัพท์บอกจำนวน
5. Demonstrative Adjective คุณศัพท์ชี้เฉพาะ
6. Possessive Adjective คุณศัพท์บอกเจ้าของ
7. Interrogative Adjective คุณศัพท์คำถาม
8. Distributive Adjective คุณศัพท์แบ่งแยก


2.1 Descriptive Adjective คุณศัพท์บอกลักษณะ ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้แสดงลักษณะหรือคุณภาพของนามต่าง ๆ เพื่อให้รู้ว่า นามนั้นมีลักษณะอย่างไร ได้แก่คำว่า good , gat , bad , tall , short , white , thin , rich , poor , etc. เช่น
The rich man lives in the big house.
คนรวยอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ เป็นต้น


2.2 Proper Adjective คุณศัพท์บอกชื่อเฉพาะ หรือวิสามัญคุณศัพท์ ได้แก่คุณศัพท์ที่มีรูปมาจากคำนามที่เป็นชื่อเฉพาะนั่นเอง หรืออาจจะเรียกคุณศัพท์นี้ว่า คุณศัพท์บอกสัญชาติ จะดีกว่า เพราะฟังเข้าใจง่าย ซึ่งมีรูปเปลี่ยนแปลงมาจาก Proper Noun ดังต่อไปนี้

นามเฉพาะเจาะจง(proper Noun)

คุณศัพท์บอกชื่อเฉพาะ
(proper Adjective)

คำแปล
England English อังกฤษ
America American อเมริกา
Thailand Thai ไทย
India Indian อินเดีย
Germany German เยอรมัน
Italy Italian อิตาลี
Japan Japanese ญี่ปุ่น
China Chinese จีน

2.3 Quantitative Adjective คุณศัพท์บอกปริมาณ ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามบอกจำนวนของนามว่า มากหรือน้อย แต่ไม่บ่งชัดลงไปว่ามีจำนวนเท่านั้นเท่านี้ เพียงแต่บอกมาหรือน้อยเท่านั้นเอง ได้แก่คำว่า much,many,little,some, any, all เช่น
He has many friends.
เขามีเพื่อนมาก
I have much money.
ฉันมีเงินมาก
Please give me some money.
กรุณาให้เงินแก่ผมบ้าง
All boys stand up.
เด็กทั้งหมดยืนขึ้น เป็นต้น


2.4 Numberal Adjective คุณศัพท์ที่บอกจำนวน ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้บอกจำนวนของนามว่า มีเท่านั้นเท่านี้ ได้แก่ one , two , tree , ...... , etc. เช่น

She has two books. Daeng has friends.
หล่อนมีหนังสือ 2 เล่ม แดงมีเพื่อน 10 คน
I have few cars. The first girl is tall.
ฉันมีรถ 2-3 คัน เด็กหญิงคนที่หนึ่งเป็นคนสูง เป็นต้น

2.5 Demonstrative Adjective คุณศัพท์ชี้เฉพาะ ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้ขยายเพื่อชี้เฉพาะเจาะจงว่า เป็นคนนั้นคนนี้ มิได้หมายถึงคนอื่น ได้แก่คำว่า the same, this, that, these, those, such, such a, เช่น

This man is my brother. That woman is my mother.
ชายคนนี้เป็นพี่ชายของฉัน หญิงคนนั้นเป็นมารคาของฉัน
I never say such things. He is in the same room.
ฉันไม่เคยพูดเช่นนั้นเลย เขาอยู่ห้องเดียวกัน เป็นต้น

2.6 Possessive Adjective คุณศัพท์บอกเจ้าของ ได้แก่ คุณศัพท์ที่มีรูปมาจากบุรุษสรรพนามรูปที่ 3 นั่นเอง ฉะนั้นคุณศัพท์จำพวกนี้เวลาพูดหรือเขียนต้องมีนามตามหลังตลอดไปจะใช้แต่มันโดยลำพังไม่ได้ ได้แก่คำว่า my,your,our,his,her,its,their, เช่น

This is my house. His dog is white.
นี่คือบ้านของฉัน สุนัขของเขาสีขาว
Her hands are very clean. That is your suitcase.
มือของเธอสะอาดมาก นั้นคือกระเป๋าของท่าน

2.7 Interrogative Adjective คุณศัพท์คำถาม ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อให้เป็นคำถาม ฉะนั้นจึงต้องใช้นำหน้านามตลอดไป หากไม่มีคำนามตามหลังมันเป็นปฤจฉาสรรพนามได้แก่คำว่า What,Which,Whose เช่น

What book is he reading? Which book do you like?
เขากำลังอ่านหนังสืออะไร? ท่านชอบหนังสือเล่มไหน?
Whose ruler is this? Whose house is that?
นี้คือไม้บรรทัดของใคร? นั้นคือบ้านของใคร?

2.8 Distributive Adjective คุณศัพท์แบ่งแยก ได้แก่ คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อแบ่งแยกออกจากกันเป็นรายบุคคลหรือรายสิ่ง ตามที่ผู้พูดต้องการ ได้แก่คำว่า each (แต่ละ) either (อันใดอันหนึ่ง) neither (ไม่ทั้งสอง) every (ทุกๆ)อนึ่งให้สังเกตไว้ด้วยว่านามที่มีวิภาคคุณศัพท์ตามข้อ 8 นี้วางอยู่ข้างหน้านามตัวนั้น ต้องเป็นเอกพจน์ตลอดไป เช่น

Each student is writing his name. Either bank is flooded.
นักศึกษาแต่ละคนกำลังเขียนชื่อของเขา แต่ละฝั่งของแม่น้ำถูกน้ำท่วม
Neither school is close to my house. Every girl puts a hat on her head.
ไม่มีโรงเรียนใดตั้งอยู่ใกล้บ้านฉันเลย เด็กหญิงทุกๆคนใส่หมวดบนศีรษะของเธอ

Adjective ที่มานอกแบบ
นอกจาก Adjective ทั้ง 8 ชนิดที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีคำอื่นอีกมากมายเยอะแยะที่มาใช้เป็นคุณศัพท์หรือใช้เสมือนหนึ่งเป็นคุณศัพท์ (Adjective) ได้ ตามความเห็นของผู้เขียนแล้วอยากจะเรียกคำที่นำมาใช้เหมือนหนึ่งเป็นคุณศัพท์นั้นว่า "คุณศัพท์ที่มานอกแบบ" เพราะคุณศัพท์จำพวกนี้ไม่มีในคุณศัพท์ 8 ชนิดที่กล่าวแล้ว ดังนั้นจึงได้เรียกว่าคุณศัพท์นอกแบบ ซึ่งอันนี้มิได้แตกต่างอะไรกับภาษาบาลีเลย ในขณะที่ท่านกำลังเรียนอยู่ในนามกิตต์กริยากิตต์หรือสนธินั้นจะมีปัจจัยอยู่บางตัวหรือบางพวกที่เรียกว่า เป็นปัจจัยนอกแบบนำมาใช้ร่วมกับปัจจัยในแบบ หรือศีลสิกขาบทของพระท่านก็ดีนอกจากจะมีมาในพระปาฎิโมกข์แล้ว ยังมีมานอกพระปาฎิโมกข์อีกใช่ไหมครับ หรือท่านจะคัดค้านกับผู้เขียนว่าไม่จริง ไม่จริงก็เชิญเถิดไม่ขัดข้องดังนั้นคุณศัพท์ที่มานอกแบบก็ได้ ได้แก่คำต่อไปนี้ คือ


1. คำนาม (noun) ใช้เป็น Adjective ขยายนามด้วยกันได้ แต่ให้วางไว้หน้านามที่มันไปขยายเสมอ เช่น
They study at Suan Kularb school every day.
พวกเขาเรียนอยู่ที่ดรงเรียนสวนกุหลาบทุก ๆ วัน
(Suan Kularb เป็นนาม แต่นำมาใช้เป็น Adjective ขยาย school) เป็นต้น
2. คำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยมี Apostrophe's มาใช้ควบด้วยนั้นนำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามได้ และให้เรียงไว้หน้านามตัวนั้นตลอดไป เช่น
Daeng's house was built in Bangkok last year.
บ้านของแดงได้สร้างไว้ในกรุงเทพฯ เมื่อปีกลายนี้
(Daeng's เป็นคำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ แต่นำมาใช้เป็น Adjective ขยาย house)
3. Infinitive กริยาสภาวมาลา นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามได้ แต่ต้องวางไว้หลังนามที่มันไปขยายเสมอ ห้ามวางไว้หน้า เช่น
This is the book to read. นี่คือหนังสือสำหรับอ่าน
(to read เป็น Infinitive นำมาใช้เป็น Adjective ขยาย book)
4. Participle ซึ่งจะเรียนอย่างละเอียดในอีกบทหนึ่ง นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยายนามทั่วไปได้ และให้วางไว้หน้านามที่มันไปขยายทุกครั้งด้วย เช่น
The standing boy is afraid of the running dod.
เด็กที่ยืนอยู่กลังสุนัขที่วิ่งมา
(standing,running เป็น Participle ที่นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยาย boy,dog ได้)
5. Gerund คือคำกริยาที่เติม ing แล้วนำมาใช้อย่างนาม นำมาใช้เป็นAdjective ขยายนามได้ และให้วางไว้หน้านามที่มันไปขยายเสมอ เช่น
We have a swimming pool near the school.
พวกเรามีสระว่ายน้ำอยู่ใกล้ ๆ กับโรงเรียน
(swimming เป็น Gerund นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ขยาย pool)
6. Adjective Clause คุณานุประโยคนำมาใช้เป็น Adjective ขยายนามได้แต่ต้องวางไว้หลังนามที่มันขยายตลอดไป เช่น
The boy who is learning English is my brother.
เด็กผู้ซึ่งกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่คือน้องชายของผม
(who is learning English เป็นคุณานุประโยค ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยาย boy ที่อยู่ข้างหน้า เป็นต้น)


แบบฝึกหัด
จงบอก Adjective ที่พิมพ์ด้วยอักษรตัวดำนั้นว่าเป็น Adjective ชนิดไหน?
1. He is reading an English newspaper in his room.
2. Some people have much money but never happy.
3. This car was bought from japan last month.
4. Six boys are playing football in the field.
5. They love their teacher very much.
6. Which pencil do you like best?
7. I like to read the Thai literature every day.
8. Either bank is flooded.
9. Every girl has her lunch at school.
10. She has many friends in America.
11. Ladda doesn't like these mangoes.


จงขีดเส้นใต้คำที่อยู่ในวงเล็บซึ่งเห็นว่าถูกต้องตามหลักการใช้ Adjective
12. Even he was (asleep,sleeping) but his brain seemed to be at work.
13. Today Sak is (good,well) so he smiles all time.
14. A (good,well) student must be at school every day.
15. We live in the (wooded,wood) houses.
16. I saw the (awake,waking) boy in the house last night.
17. A (ill,sick) man can't work hard.
18. He is my (older,elder) brother working with this company.


ให้กาเครื่องหมายถูกหรือผิดกับ Adjective ที่ใช้ขยายนามในประโยคต่อไปนี้
19. (................) Seri is tall six feet.
20. (................) This road is twenty feet wide.
21. (................) She is sixteen years old.
22. (................) Is there necessary anything to do?
23. (................) Ihere is nothing important for us to see.
24. (................) The wise Kukrit is coming here soon.
25. (................) We love Napoleon, the Great.
26. (................) Burmar is our neightboring country.
27. (................) Pani is a well girl.
28. (................) I am a short teacher.
29. (................) Suni is interested in new something.
30. (................) They are twenty years old.


เฉลยแบบฝึกหัด
1. English เป็น Adjective บอกสัญชาติ (Proper Adj.)
2. some เป็น Adjective บอกปริมาณ (Quantitative Adj.)
happy เป็น Adjective บอกลักษณะ (Descriptive Adj.)
3. this เป็น Adjective บ่งความชี้เฉพาะ (Demonstrative Adj.)
4. six เป็น Adjective บอกจำนวน (numberal Adj.)
5. their เป็น Adjective บอกเจ้าของ (possessive Adj.)
6. wjocj เป็น Adjective บอกคำถาม (interrogative Adj.)
7. Thai เป็น Adjective บอกสัญชาติ (proper Adj.)
8. either เป็น Adjective บอกการแบ่งแยก (distributive Adj.)
9. every เป็น Adjective บอกการแบ่งแยก (distributive Adj.)
10. many เป็น Adjective บอกปริมาณ (quantitative Adj.)
11. These เป็น Adjective บ่งความชี้เฉพาะ (demonstrative Adj.)
12. asleep
13. well
14. good
15. wooded
16. walking
17. sick
18. elder
19. x
20. /
21. /
22. x
23. /
24. x
25. /
26. /
27. x
28. /
29. x
30. /

No comments:

Post a Comment

Upload file free - ฝากไฟล์ฟรีไม่หมดอายุแน่นอน